[เผยแพร่แล้วในเว็บไซต์ https://th-th.facebook.com/thvoiceofgen/ เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2016 (พ.ศ. 2559): (เป็นบทความที่มีการเสริมเนื้อหาเพิ่มเติมจากการเผยแพร่ครั้งแรก – 29 ตุลาคม 2013 – ในเพจวารสารแนวหน้าปริทัศน์ในชื่อว่า “ปรากฎการณ์ตาสว่างกับเรื่องที่อิควานไม่เข้าใจชัยคฺอัลบานีย์ไม่หุกุ่มอิควานว่าออกจากสุนนะฮฺจริงหรือ ?” แต่แอดมินเพจถือวิสาสะเปลี่ยนชื่อบทความใหม่ให้สอดคล้องกับเนื้อหาที่มีการกล่าวถึง)]
มี “อิควาน” ในไทยบางรายได้นำเทปของชัยคฺอัลบานีย์ในชื่อชุดว่า ซิลซิละฮฺอัลฮูดา วัลนูร หมายเลข: 849 มานำเสนอโดยอ้างว่าชัยคฺอัลบานีย์ได้ถอนจากความเห็นที่ที่เคยหุกุ่มอิควานออกจากแนวทางซุนนะฮฺ ซึ่งเราจะมาติดตามเรื่องนี้กัน
ชัยคฺอัลบานีย์ กล่าวว่า
أن الإخوان المسلمين ليسوا من الفرق الضالة
ولا أعتقد أني قلت ذلك ولو قلته فإنى أتراجع عنه
ولا أعتقد أن يصل بى الأمر إلى أن أحكم على شخص ما
بأنه من الفرق الضالة لمجرد مخالفة واحدة ,
“อิควานมุสลิมูนไม่ใช้กลุ่มที่หลงทางและฉันเองก็ไม่เชื่อว่าฉันได้พูดอย่างนั้น และถ้าหากว่าฉันพูดอย่างนั้นฉันขอถอนคำพูด และฉันก็ไม่เชื่อว่าเรื่องราวนี้ (การหุกุ่มอิควาน) จะเกิดกับฉันจนทำให้ฉันตัดสิน (อิควาน) รายคนว่าเขาเป็นกลุ่มที่หลงผิดเพียงแค่การกระทำผิดเพียงข้อเดียว”
วิภาษ
คำพูดของชัยคฺอัลบานีย์วรรคนี้หากไม่มีความเข้าใจถึงกฎเกณฑ์ของการหุกุ่มตามแนวทางซุนนะฮฺ หลายคนอาจจะคิดว่าชัยคฺอัลบานีย์ไม่หุกุ่มอิควานเพราะวรรคแรกระบุว่า
أن الإخوان المسلمين ليسوا من الفرق الضالة
“อิควานมุสลิมูนไม่ใช้กลุ่มที่หลงทาง”
หลายคนอ่านคำพูดนี้ของชัยคฺอัลบานีย์เลยพาลด่วนสรุปไปว่าอิควานไม่ใช่กลุ่มหลง โดยที่ผู้อ่านไม่เข้าใจนิยามของคำว่า “ฟิรเกาะฮฺ” ที่ชัยคฺอัลบานีย์พูดในบริบทนี้ว่าหมายถึงอะไร ความจริงแล้วคำว่า “กลุ่มอิควาน” ที่ชัยคฺอัลบานีย์พูดในบริบทนี้หมายถึง สมาชิก “รายคน” ที่รวมตัวกันจนเป็นกลุ่มอิควาน กรณีนี้ท่านชัยคฺจะไม่หุกุ่มดังการขยายความของเชคในวรรคที่สามว่า
ولا أعتقد أن يصل بى الأمر إلى أن أحكم على شخص ما
بأنه من الفرق الضالة لمجرد مخالفة واحدة ,
“และฉันก็ไม่เชื่อว่าเรื่องราวนี้ (การหุกุ่มอิควาน) จะเกิดกับฉันจนทำให้ฉันตัดสิน (อิควาน) รายคนว่าเขาเป็นหนึ่งจากสมาชิกของกลุ่มที่หลงผิดเพียงแค่การกระทำผิดเพียงข้อเดียว”
คำพูดวรรคนี้ของชัยคฺอัลบานีย์ขยายความประโยคแรกที่ท่านพูดไป หมายความว่าท่านจะไม่หุกุ่มว่าอิควานรายตัว, รายบุคคลหรือรายปัจเจกชนเป็นส่วนหนึ่งจาก “กลุ่มหลงผิด” ตรงนี้สะท้อนให้เห็นว่ากลุ่มหลงผิดในประโยคคำพูดของชัยคฺอัลบานีย์วรรคนี้หมายถึงสมาชิกรายคนที่รวมตัวกันขึ้นเป็นกลุ่ม!
สิ่งที่สนับสนุนการอธิบายนี้คือวรรคต่อมาที่ท่านชัยคฺพูดว่า
وفيهم أفراد هم معنا فى العقيدة لكنهم ليسوا معنا فى المنهج
“และในหมู่พวกเขา-ในรายตัว-นั้นก็ยังมีคนหลายคนที่เดินแนวทางของเราในเรื่องของอะกีดะฮฺแต่ไม่ได้เดินตามแนวทางเราในมันฮัจฺ”
คำพูดตรงนี้สะท้อนให้เห็นว่าท่านชัยคฺกำลังหมายถึงอิควานรายตัวหรือรายบุคคล ไม่ใช่ในมิติของแนวทางภาพรวมหรือนโยบายกลุ่ม เพราะเป็นที่ทราบกันดีว่าหากในแง่ของนโยบายกลุ่มแกนนำอิควานส่วนใหญ่มีอะกีดะฮฺอะชาอิเราะฮฺ
ท่านชัยคฺอัลบานีย์ได้กล่าวต่อไปว่า
لذلك أنا لا أجد رخصة لأحد أن يحشرهم فى زمرة الفرق الضالة
“ด้วยเหตุนี้เอง ฉันจึงไม่พบข้ออนุญาตให้ทำการจะยัดเยียดในรายตัว (คนหนึ่งคนใด) แก่พวกเขา (กลุ่มอิควาน) ให้อยู่ในกลุ่มที่หลงผิด”
คำพูดตรงนี้เป็นการขยายความว่าท่านชัยคฺกำลังหมายถึงอิควานรายตัวเราจะหุกุ่มไม่ได้
เมื่อเราพิจารณาคำพูดของชัยคฺอัลบานีย์ตามที่ได้นำเสนอไปแล้ว คนที่ขาดความรู้ (เช่นกลุ่มอิควาน) อาจจะงงเพราะไม่เข้าใจระหว่างการตัดสิน “รายตัว” กับการตัดสิน “แนวทาง” ของกลุ่มนั้นๆ อิควานมักไม่ค่อยเข้าใจถึงความต่างระหว่างสองลักษณะนี้ ด้วยเหตุนี้จึงมี “อิควาน” บางคนหาว่าชาวสะละฟีย์ในไทยหุกุ่ม ดร.ลุตฟีย์ ว่าลงนรกเพราะสะละฟีย์ยึดตามฟัตวาชัยคฺบินบาซที่ตัดสินว่าอิควานคือกลุ่มหนึ่งจาก 72 กลุ่มนรก!
นี่คือสภาพของ “อิควาน” บางคน การที่เราหุกุ่มแนวทางของกลุ่มใดว่าออกจากแนวทางซุนนะฮฺ กรณีเช่นนี้ไม่ได้รวมความไปยังรายบุคคล นี่คือมันฮัจฺที่อิควานไม่เข้าใจ ผมจะขอยกตัวอย่างให้เห็นภาพง่ายๆ
ถามว่าชีอะฮฺคือแนวทางกาฟิรฺไหม ? คำตอบคือใช่ แต่ถามว่าชี้ไปยังชีอะฮฺรายคนที่เดินอยู่ในสังคมไทยว่าเป็นกาฟิรฺได้หรือไม่? คำตอบคือ ไม่ได้ หลักการศาสนาจำแนกการหุกุ่มเนื้อหาความเชื่อทฤษฎีของกลุ่มชีอะฮฺออกจากชีอะฮฺรายคน ด้วยเหตุนี้เชคอัลบานีย์จึงเคยพูดว่า
نحن قلنا في بعض جلساتنا أنا لا أرى أن نقول كل شيعي هو كافر، لكن أيَّ شيعي يقول أن قرآننا هذا هو ربع المصحف،..ونحو ذلك من الكلمات المكفرة وهو يعتقدها ويدين الله بها، هذا الذي نقول إنّه كافر.
أما نقول الشيعة كلهم كفار، لا هذا عبارة عن غلُّو في الدين،
“ฉันไม่เคยมีทัศนะว่าว่าชีอะฮฺทุกคนคือกาฟิรฺ แต่ชีอะฮฺที่เป็นกาฟิรฺสงวนเฉพาะที่บอกว่าอัลกุรอานไม่สมบูรณ์เท่านั้น เพราะการกล่าวว่าชีอะฮฺทุกคนคือกุฟฟารนั้นไม่อนุญาต เนื่องจากเป็นพฤติกรรมที่เข้าข่ายเลยเถิดในศาสนา” (ที่มา سلسلة الهدى رقم 752)
เช่นเดียวกันท่านชัยคฺมุกบิล บินฮาดีย์ เมื่อท่านถูกถึงข้อตัดสินของกลุ่มอิควาน ท่านชัยคฺก็กล่าวว่า
“ทัศนะของแนวทางซุนนะฮฺต่อกลุ่มอิควาน พวกเขา (นักปราชญ์ซุนนะฮฺ) ทำการตัดสินบนมันฮัจฺ (นโยบาย,ระเบียบ,แนวทาง) ของกลุ่มอิควานว่าเป็นมันฮัจฺที่ออกจากแนวทางซุนนะฮฺ ส่วนในสมาชิกรายตัวของกลุ่มอิควานนั้น พวกเขามีทั้งผู้ที่รู้จักความผิดของมันฮัจฺอิควานดีกรณีเช่นนี้ก็ถือเป็นมุบตะดิอฺ (หลงผิดรายตัว) ทว่ายังมีรายตัวบางคนจากกลุ่มอิควานที่ไม่รู้จักมันฮัจฺอิควานและคิดทึกทักไปว่าเขากำลังช่วยเหลืออิสลาม (ผ่านกลุ่มอิควาน) กรณีรายตัวเช่นนี้เราถือว่าผิดพลาดเท่านั้น (ไม่หลงออกจากแนวทางซุนนะฮฺ) ” ตุฮฺฟะตุลมุญี๊บฯ หน้า 203
นี่คือรายละเอียดของการตัดสินคนที่แยกระหว่างการตัดสินคำสอนของแนวทาง กับการตัดสินรายตัวของสมาชิก พี่น้องสะละฟีย์ในไทยยังไม่มีใครตัดสินอิควานรายตัวว่าออกจากแนวทางซุนนะฮฺ กระทั่งกับชีอะฮฺกุฟฟ้าร ก็ยังไม่เคยพบพี่น้องสะละฟีย์คนใดที่ชี้ชีอะฮฺรายคนว่าออกจากศาสนาอิสลาม
หากฟัตวาของท่านชัยคฺอัลบานีย์บทนี้ไม่ได้หมายถึงอิควานรายตัวแล้ว ก็ไม่มีความจำเป็นใดที่ท่านชัยคฺจะต้องขยายความเรื่องอิควานรายตัวในวรรคที่ผมนำเสนอไป แค่ท่านบอกว่าอิควานไม่ใช่กลุ่มหลงอันนี้ก็เป็นที่รู้กันแล้วว่ารายตัวก็ไม่หลง มันไม่กินกับปัญญาที่เราจะพูดว่าอะฮฺลุลหะดีษ,หรือกลุ่มอะฮฺลุซซุนนะฮฺไม่ใช่กลุ่มหลงผิด แล้วในรายตัวก็ไม่หลงด้วย!
ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อเราหันไปดูฟัตวาของชัยคฺอัลบานีย์ที่เคยถือว่าอิควานออกจากซุนนะฮฺเราจะพบว่าในฟัตวาตัวนั้นชัยคฺอัลบานีย์เองก็ไม่ได้หุกุ่มอิควานรายตัวออกจากซุนนะฮฺ แต่หุกุ่มอุศู้ล (รากฐานของกลุ่ม) อิควานว่าออกจากซุนนะฮฺอันสะท้อนให้เห็นว่าฟัตวาตัวนี้กับตัวแรกเป็นการพูดคนละประเด็นกัน
ใครอยากทราบรายละเอียด โหลดหนังสือนี้ https://app.box.com/shared/n9eqbv7mxy
ดูหน้าที่ 60 ชัยคฺอัลบานีย์ถามผู้สนทนาว่ามาคุยเรื่องอิควานกับฉันทำไมถึงไปวนเรื่องฟุรูอฺ (ปลีกย่อย) ของอิควาน ทำไมไม่คุยเรื่องกฎอุศู้ล (มันฮัจฺ) ของอิควานเล่า และท่านก็พูดประโยคถัดมาว่า ไม่ถูกต้องที่ท่านจะกล่าวว่าอิควานคือซุนนะฮฺ หากแต่พวกอิควานทำสงครามกับซุนนะฮฺ และท่านชัยคฺก็กล่าวกับผู้สนทนาว่าท่านนั้นจะคุยเรื่องอิควานแต่กลับทิ้งหัวของอิควาน (อุศู้ล) แล้วไปวนคุยเรื่องอิควานรายคน แสดงว่า ที่ชัยคฺฟัตวาว่าอิควานหลง ชัยคฺฟัตวาตามสภาพของอุศู้ลอิควานนั้นหลง
หน้า 62 ผู้ถามกล่าวว่า ในหมู่อิควานไม่ได้มีความคิดเดียวที่จะสามารถหุกุ่มได้ เพราะในหมู่อิควานก็มีสะละฟีย์อยู่ ชัยคฺก็ตอบว่าฟังให้ดี มันไม่ถูกต้องที่จะพูดถึงอิควานรายคน ที่เรากำลังพูดอยู่นี้เราพูดถึงมันฮัจฺ มันฮัจฺอิควานเมื่อเปรียบเทียบกับซุนนะฮฺ
หน้า 65 ชัยคฺอัลบานีย์บอกไม่อนุญาตที่เราจะกล่าวว่าการขัดแย้งระหว่างพวกเราชาวซุนนะฮฺกับพวกอิควานนั้นขัดแย้งเพียงแค่เรื่องปลีก ๆ จิ๊บจ้อย (แสดงว่าขัดเรื่องใหญ่มันฮัจฺอุศู้ล) และไม่อนุญาตที่จะกล่าวว่าพวกอิควานคือซุนนะฮฺ ไม่ได้ (ไม่ใช่ซุนนะฮฺ) แต่พวกมันทำสงครามกับซุนนะฮฺและเราขอกล่าวว่าการดะอฺวะฮฺในวันนี้ของพวกอิควานทำให้แตกแยกไปหมด นั่นแสดงว่าฟัตวาที่ชัยคฺอัลบานีย์บอกว่าอิควานหลงหมายถึงหลงในทางมันฮัจฺ ส่วนที่บอกว่าไม่หลงคือรายคนยังบอกไม่ได้
เลขหน้าตามปรากฏในอักษรของหนังสือ
ดังนั้นการอ้างว่าชัยคฺอัลบานีย์ถอนความเห็นจากการหุกุ่มอิควานจึงไม่ถูกต้องไม่รอบคอบและอ่านฟัตวาไม่เข้าใจ ท่านเพียงแต่เผื่อไว้เท่านั้นว่าท่านอาจจะเคยหลุดปากหุกุ่มอิควานรายตัว เพราะท่านเองก็บอกไว้ในตอนแรกแล้วว่าท่านนั้นมั่นใจว่า
ولا أعتقد أني قلت ذلك
“และฉันเองก็ไม่เชื่อว่าฉันได้พูด (หุกุ่มรายตัว) อย่างนั้น”
หากไม่ใช่เรื่องรายตัวดังที่ได้อธิบายไป จะเป็นไปได้อย่างไรที่ชัยคฺอัลบานีย์จะมั่นใจว่าตนเองไม่เคยหุกุ่มอิควานว่าหลงทางเลย ในเมื่อเทปจำนวนมากของท่านเคยหุกุ่มว่าแนวทางอิควานเลวกว่ายิว, ออกจากซุนนะฮฺทำสงครามกับซุนนะฮฺดีแต่เล่นบอล ฯลฯ ในเมื่อการหุกุ่มพวกนี้เลื่องลือเสียขนาดนั้น เหมือนลองจินตนาการว่าชัยคฺเราะบีอฺ มัดคอลีย์ ออกมาพูดว่าฉันไม่เคยหุกุ่มอิควานเลยนะ! จำไม่ได้ว่าตอนไหน! นี่คือคำอธิบายเหลวไหล มันมีกรณีเดียวก็คือท่านชัยคฺหมายถึงว่าท่านมั่นใจว่าท่านไม่เคยหุกุ่มอิควานรายตัวไม่เกี่ยวกับแนวทางอิควาน
การที่เราบอกว่าอิควานหลง อิควานไม่ใช่ซุนนะฮฺเราพูดว่า นโยบายอิควานที่พวกท่านทั้งหลายยึดถือตามกันไม่ใช่แนวทางซุนนะฮฺ เราพูดเพื่อให้ท่านออกห่างเนื่องจากความเสี่ยงในการตามแนวทางหลงผิด ไม่เกี่ยวกับการหุกุ่มตัวคนว่าออกจากซุนนะฮฺ
วิเคราะห์คำพูดชัยคฺอัลบานีย์ทีละช็อดกันครับ
السائل : إذًا هذا وضّح الكلام شيخنا أو قيد فهمه كثير من الجالسين في المجلس الأول وكنت أنا أحدهم حتى تسائل كثير من الإخوة الذين هم من طلبة العلم الكبار قالوا ما عهدنا عن الشيخ الفتوى بأن هذه الفرق المخالفة لنا أنها خارجة إلى الثنتين وسبعين فرقة الهالكة وإنما عهدناه أنه يخطئ ويعني يحذر من هذه الأخطاء دون أن يصل الحكم إلى هذا الأمر فالآن يظهر لنا أنكم تقيدون أن هذا الفعل الذي هو محل السؤال هم شابهوا فيه أو خرجوا فيه من دائرة الفرقة الناجية ولا يعني ذلك خروجهم بالكلية من دائرة الفرقة الناجية.
الشيخ : هذا الذي ندين الله به
//ชัยคฺมะอฺริบีย์
ครับ งั้นคำพูดนี้ก็ได้ขยายความ คำพูดที่ชัยคฺเคยพูดไว้ในมัจญลิสก่อน ๆ แล้ว ซึ่งมีพี่น้องที่ร่วมมัจญลิส หลายท่านรวมทั้งผมเองด้วยได้เข้าใจฟัตวาเรื่องนี้ (อย่างไม่ถูกต้อง) จนกระทั่งมีนักศึกษารุ่นใหญ่ ๆ หลาย ๆ ท่านมาคุยกับเราว่า
“เท่าที่เราสัมผัสกับชัยคฺ (อัลบานีย์) เราไม่เคยพบฟัตวาจากชัยคฺอันไหน เลยที่ว่าจะหุกุ่มกลุ่มที่เห็นแย้งกับเราว่าเป็นหนึ่งใน 72 จำพวกที่ต้องพินาศ แต่เท่าที่เรารู้จักชัยคฺมาท่านจะบอกว่า มันผิดพลาดและเตือนให้ออกห่างจากความผิดพลาดนั้น โดยไม่ได้ให้หุกุ่มใด ๆ ในเรื่องดังกล่าว”
ซึ่งตรงนี้ก็ชัดแล้วว่า ชัยคฺแค่หุกุ่มไปตามการกระทำซึ่งเป็นประเด็นของคำถามว่า พวกเขามีความคล้ายคลึงกันในการกระทำดังกล่าว หรือด้วยการกระทำดังกล่าวนั้นพวกเขาได้ออกไปจากความเป็นฟิรเกาะฮฺนาญิยะฮฺ (กล่มชนผู้รอดพ้น) แต่ดังกล่าวไม่ได้หมายว่าต้องหลุดออกจากความเป็นฟิรเกาะฮฺนาญิยะฮฺอย่างเต็มตัว
//ชัยคฺอัลบานีย: ที่ท่านกล่าวมานี้ คือคือสิ่งที่เราใช้มันในการรักษาศาสนาของอัลลอฮฺ
อธิบาย
คำพูดของผู้สนทนาข้างกับต้นกับชัยคฺอัลบานีย์ แสดงให้เห็นถึงการจำแนกระหว่าง “ตัวกลุ่ม” (หรือตัวคนในกลุ่ม, องค์กร) ที่ไม่ถูกตัดสินว่าออกจากซุนนะฮฺ กับ “ตัวคำสอน/แนวทาง/พฤติกรรมของกลุ่ม” ที่ถูกตัดสินว่าออกจากซุนนะฮฺ คำพูดของต้นชี้ชัดว่าชัยคฺอัลบานีย์เวลาจะตัดสินอะไร ชัยคฺจะตัดสินที่ “ตัวการกระทำหรือคำสอน/แนวทางกลุ่ม” ไม่ใช่ที่ตัวกลุ่ม เช่น เราพูดว่า คำสอนหรือแนวทางของกลุ่มตับลีฆไม่ใช่ซุนนะฮฺ อันนี้คนละอย่างกับการตัดสิน “ตัวกลุ่มตับลีฆ” (หรือคนนั่นเอง) ที่ออกเดินดะอฺวะฮฺว่าออกจากซุนนะฮฺ โปรดสังเกตข้อความที่ระบุว่า “ซึ่งตรงนี้ก็ชัดแล้วว่าชัยคฺแค่หุกุ่มไปตามการกระทำ…หรือด้วยการกระทำดังกล่าวนั้นพวกเขาได้ออกไปจากความเป็นฟิรเกาะฮฺนาญิยะฮฺ (กล่มชนผู้รอดพ้น)”
ตรงนี้บ่งชี้ว่าท่านชัยคฺอัลบานีย์จะหุกุ่มที่ตัวการกระทำและคำสอน และในวรรคต่อมาระบุว่า
“แต่ดังกล่าวไม่ได้หมายว่าต้องหลุดออกจากความเป็นฟิรเกาะฮฺนาญิยะฮฺอย่างเต็มตัว”
ตรงนี้ไม่ใช่ปัญหา การที่เรากล่าวว่า กลุ่มหนึ่งมีมันฮัจฺที่ออกจากอะฮฺลุซซุนนะฮฺนั้น เราเองก็ไม่ได้บอกว่า พวกเขาออกจากอะฮฺลุซซุนนะฮฺ “ทุกข้อ” เช่น สมมุติเราบอกว่าอิควานมีมันฮัจฺหรือแนวทางที่ออกจากแนวทางซุนนะฮฺสามข้อ แน่นอนเราก็ไม่ได้หมายความว่า อิควานจะออกจากแนวทางซุนนะฮฺในเรื่องอื่นที่ถูกต้อง เราไม่ได้เหมารวมว่าอิควานปฏิเสธละหมาดห้าเวลา, ปฏิเสธการเป็นเคาะลีฟะฮฺของอบูบักรฺ, ปฏิเสธว่าคำสอนสุนนะฮฺอื่น ๆ แต่อย่างใด ประเด็นของเราคือ คำสอนหรือแนวทางของอิควาน มีที่ออกจากแนวทางสุนนะฮฺ นี่คือจุดยืนเราที่ไม่ขัดกับจุดยืนของชัยคฺอัลบานีย์
// ชัยคฺอัลบานีย์กล่าวต่อไปว่า
أنا ما أعتقد أنني كنت أنهم من الفرق الضالة لأنني كثيرًا ما أسأل سؤالا صريحًا أنا ما أعتقد في تلك الجلسة قلت هذا الكلام وكنت أشتهي أن يسمعني الشريط حتى إذا كان هناك خطأ ما ولو خطأ لفظيًا نتراجع عنه لكني أظني في نفسي في بعض الأحيان خيرًا يعني أنني لا يصل بي الوهم إلى هذا الحضيض أن أحكم على شخص ما بأنه من الفرقة الضالة أو الفرق الاثنين وسبعين لمجرد مخالفة واحدة
ฉันไม่เชื่อว่าฉันเคยพูดเช่นนั้น (หุกุ่มคนอื่นในรายตัวว่าเป็น 1 ใน 72 จำพวก) และหากว่าฉันพูดไปก็ขอถอนคำพูด เพราะหลาย ๆ ครั้งฉันก็ถูกถามด้วยคำถามที่ชัดเจนนะ ฉันเลยไม่เชื่อว่าฉันจะพูดไปอย่างนั้น และฉันก็อยากจะฟังเทปที่อัดไว้เหมือนกัน เผื่อว่ามันมีข้อผิดพลาดตรงไหน ฉันจะได้ถอดคำพูดนั้นเสียแต่บางครั้งฉันก็คิดว่า ตัวฉันเองยังสติดีอยู่ หมายถึง ฉันไม่ได้สับสนไปตัดสินคนหนึ่งคนใดรายตัว ว่าเป็นพวกหลงผิด หรือเป็น1 ใน 72 จำพวก ด้วยความผิดแค่เพียงอย่างเดียว”
อธิบาย
คำพูดของชัยคฺอัลบานีย์อันนี้ อิควานไม่เข้าใจ ที่ชัยคฺอัลบานีย์พูด ท่านหมายถึงว่า ท่านไม่หุกุ่มเจาะจงตัวบุคคลว่าเป็น 1 ใน 72 จำพวก ตัวบทใช้คำว่า أن أحكم على شخص “หุกุ่มรายบุคคลแบบเจาะตัว” ซึ่งตรงนี้คนละเรื่องกับ การหุกุ่มแนวทางนะครับ อย่ามึน! หุกุ่มว่าเมาลิดเป็นบิดอะฮฺ กับตัวคนทำเมาลิด เป็นคนละสิ่งกัน
// ท่านชัยคฺอัลบานีย์พูดต่อไปว่า
كثيرًا ما سئلت عن الأحزاب القائمة اليوم وبخاصة حينما ينصون على حزب الإخوان المسلمين هل تعتبرهم من الفرق الضالة فأقول لا لأن هؤلاء أقل ما يقال فيهم أنهم يعلنون تبعًا لرئيسهم الأول حسن البنا رحمه الله أنه على الكتاب والسنة وعلى منهج السلف الصالح وإن كانت هذه دعوة تحتاج إلى تفصيلها قولا وتطبيقها عملا وذلك ما لا نراه في الجماعة لكن نحن نكتفي منهم أنهم يعلنون الانتماء إلى الكتاب والسنة ومنهج السلف الصالح لكنهم يخالفون ذلك في قليل أو كثير وفيهم أفراد هم معنا في العقيدة لكنهم ليسوا معنا في المنهج
“และหลายต่อหลายครั้งที่ฉันถูกถามถึงกลุ่มต่าง ๆ ในสมัยนี้โดยเฉพาะพรรคภราดรภาพมุสลิม (อิควาน) ว่าฉันถือว่าพวกเขาเป็นกลุ่มหลงผิดหรือไม่? ซึ่งฉันก็ตอบไปว่า “ไม่” และฉันก็พูดถึงพวกเขาเหมือนกับสิ่งคนกล่าวถึงพวกเขาว่า พวกเขาประกาศตนว่าอยู่บนแนวทางแห่งอัลกุรอาน, อัซซุนนะฮฺและมันฮัจญ์ของชาว สะลัฟศอลิหฺ ตามที่หะสัน อัลบันนา เราะหิมะฮุลลอฮฺ เคยประกาศไว้เช่นนั้น แม้คำอ้างดังกล่าวเป็นสิ่งที่ต้องยืนยัน ด้วยรายละเอียดในด้านทัศนคติและการปฏิบัติก็ตาม ด้วยเหตุนี้เราถึงไม่ถือว่าพวกเขาเป็น ส่วนหนึ่งของ “อัลญะมาอะฮฺ” แต่เราก็เพียงพอแล้ว (ไม่ใช่แปลว่าพอใจ-ผู้แปล) ที่พวกเขาประกาศถึงเจตนารมณ์ในการนำอัลกุรอาน, อัซซุนนะฮฺ และแนวทางของชาวสะลัฟมาเป็นสรณะปฏิบัติ แม้ในความเป็นจริงพวกเขาอาจจะ ปฏิบัติสวนทางกับสิ่งนั้น บ้างก็ไม่กี่เรื่อง และบ้างก็หลาย ๆ เรื่อง และในกลุ่มนั้นก็มีรายบุคคลคน หลาย ๆ คนที่อะกีดะฮฺเดียวกันกับเรา แต่มันฮัจฺของเขาไม่ได้เหมือนเรา”
อธิบาย
ท่านชัยคฺอัลบานีย์จั่วหัวมาว่า “กลุ่มอิควานไม่หลงผิด” พวกอิควานไทยเลยเฮโลกันว่า ชัยคฺอัลบานีย์ไม่หุกุ่มมันฮัจฺอิควานว่า “หลง” ทั้งที่เจตนาของชัยคฺอัลบานีย์นั้นหมายถึง “รายตัว” ของอิควาน ดังการขยายความของท่านที่ระบุว่า
وفيهم أفراد هم معنا في العقيدة لكنهم ليسوا معنا في المنهج
“และในกลุ่มอิควานนั้น ก็มีรายบุคคลคน หลาย ๆ คนที่อะกีดะฮฺเดียวกันกับเรา แต่มันฮัจฺของเขาไม่ได้เหมือนเรา”
ตรงนี้บ่งชัดเจนว่าชัยคฺอัลบานีย์กำลังพูดถึงรายตัวของสมาชิกอิควาน ชัยคฺอัลบานีย์ถือหลักว่า สมาชิกรายตัวของอิควานนั้นเข้าใจ “ไปเอง” ว่าแนวทางของท่านฮะซัน บันนา คือแนวทางสะลัฟ ทั้งนี้ก็เนื่องด้วยความไม่รู้ ชัยคฺจึงไม่หุกุ่มบุคคลรายบุคคลในกลุ่มนี้ว่าหลง คำพูดของชัยคฺอัลบานีย์ที่ระบุว่า “อิควานไม่หลง” ในวรรคนี้หมายถึงรายบุคคล เพราะรายบุคคลของพวกเขาคิดว่าตนเองอยู่บนแนวทางสะลัฟด้วยความเข้าใจผิด จึงไม่อาจหุกุ่มได้ อย่างไรก็ตามชัยคฺอัลบานีย์ระบุว่า พวกเขาเข้าใจแนวทางสะลัฟผิด
คำพูดของชัยคฺอัลบานีย์ที่ระบุว่า อิควานไม่หลง ตรงนี้หมายถึงรายตัวยังไม่ถูกหุกุ่มหลง มิได้หมายความว่าชัยคฺอัลบานีย์จะสื่อว่า “มันฮัจฺ” อิควานไม่หลง กลับกันท่านชัยคฺพูดเองว่า
لكنهم يخالفون ذلك في قليل أو كثير
“แต่ทว่าอิควานนั้น สวนทาง (ขัดแย้ง) กับอัลกุรอาน, ซุนนะฮฺและมันฮัจฺสะลัฟบางเรื่องก็น้อย หรือบางเรื่องก็มาก”
ตรงนี้สื่อชัดเจนว่าชัยคฺอัลบานีย์ยังคงยืนกรานว่า มันฮัจฺของอิควานที่มีอยู่ในหมู่สมาชิกนั้น ไม่ใช่มันฮัจสะลัฟ เราจึงอยากถามคนที่ยกคำพูดชัยคฺอัลบานีย์ท่อนนี้มาว่า พวกท่านกล้ายอมรับไหมว่า มันฮัจฺของคนอิควานนั้น ขัดแย้งกับอัลกุรอาน, ซุนนะฮฺและมันฮัจฺสะลัฟตามคำพูดของชัยคฺอัลบานีข้างต้น
// ชัยคฺอัลบานีย์พูดต่อไปว่า
ولذلك أنا شخصيًا على الأقل لا أجد رخصة لأحد أن يحشرهم في زمرة الفرق الضالة وإنما هم يخالفوننا في مواضع يعني طالما نناقشهم ونجادلهم فيها أما أنهم يستحقون بها أن نلحقهم بفرقة من الفرق الضالة لا لأن هؤلاء ما اتخذوا لهم منهجًا يعلنونه ويتبنونه على خلاف الكتاب والسنة وما كان عليه السلف الصالح كما هو شأن الفرق الأخرى المعروفة منذ القديم
“กระนั้นฉันก็ไม่พบโอกาสใดที่คน ๆ หนึ่งจะอาศัยข้ออ้างนี้กล่าวหาว่าพวกเขาว่าเป็นกลุ่มหลงผิดทว่าพวกเขาขัดกับเรา ในหลาย ๆ เรื่อง โดยเราก็ถกกับพวกเขา และโต้กับพวกเขาเสมอมา ส่วนถ้าจะถามว่า พวกเขาสมควรที่เราจะถูกตราหน้าว่า เป็นกลุ่มชนผู้หลงผิดหรือไม่ ฉันขอบอกเลยว่า # ไม่สมควร เพราะพวกเขาไม่ได้ประกาศและตั้งมั่นอยู่บนมันฮัจญ์ที่ค้านกับอัลกุรอาน, อัซซุนนะฮฺ และสิ่งที่สะลัฟยึดมั่น ดังที่พวกกลุ่มหลงผิดอื่นๆ อันเป็นที่รู้จักกันในยุคก่อนเกิดขึ้นมา”
อธิบาย
คำพูดนี้ของชัยคฺอัลบานีย์เป็นการพูดต่อจากประโยคที่ผ่านมา ก็หมายถึงรายตัวเหมือนเดิมนะครับ ชัยคฺต้องการจะบอกว่าพวกอิควานนั้นเขาประกาศตัวเองว่าจะเอาอัลกุรอาน, เอาสะลัฟ แต่มันฮัจฺของพวกเขาไม่ได้เป็นไปตามแนวทางสุนนะฮฺ ซึ่งตรงนี้มีความต่างจากกลุ่มอื่น ๆ ในอดีตที่ออกตัวแต่แรกเลยว่าไม่เอาสะลัฟ
มาดูกันต่อ
السائل : من بركة جوابكم هذا أني أردت أن أسأل في مسألة واختلف في تفسير كلمة منكم إخواننا من طلبة العلم هناك في اليمن وذلك أنكم سئلتم عن الإخوان المسلمين هل هم من أهل السنة فقلت كيف يكونون كذلك ولهم قدر أربعين سنة وهم يحاربون السّنة فقال كثير من طلبة العلم الشيخ يخرجهم من الفرق الضالة قلت هذه الكلمة من الشيخ لا يلزم منها أن الشيخ يتبنى ما قلتم فممكن أن يخالف أهل السنة ويحارب أهل السنة رجل وإن كان يعني مخطئ في ما يفعل ويحذر منه ويبين خطأه ويشهر به على حساب المصالح والمفاسد والقواعد الشرعية في هذا الباب إلا أنه لا يلزم من ذلك أن يكون من الفرق الثنتين والسبعين من الفرقة الهالكة في كل أمره ويصنف معهم فالحمد لله في جوابكم هذا ما يعني يكون جوابًا أيضًا على السؤال الذي أردت أن أسأل فيه بارك الله فيكم.
الشيخ : أحسنت بارك الله فيك.
// ชัยคฺ อัลมะอฺริบีย์
ชัยคฺครับไหน ๆ ก็พูดเรื่องนี้ มันก็มีอีกประเด็นที่พี่น้องนักศึกษาของเราที่ประเทศเยเมนคิดเห็นไม่ตรงกันเกี่ยวกับการอธิบายคำพูดของชัยคฺ เนื่องจากชัยคฺเคยถูกถามถึงกลุ่มอิควานมุสลิมูนว่า พวกเขาเป็นส่วนหนึ่งของอะฮฺลิซซุนนะฮฺหรึอเปล่า ? ซึ่งท่านก็ตอบไปว่า “พวกเขาจะเป็นอย่างนั้นได้อย่างไร ในเมื่อพวกเขาทำสงครามกับซุนนะฮฺมากว่าสี่สิบปีแล้ว” เหตุนี้พี่น้องเราจำนวนมากจึงพากันกล่าวว่า “นี่ไงชัยคฺอัลบานีย์ขับพวกอิควานออกไปเป็นกลุ่มหลงผิดแล้ว ” ซึ่งผมขอกล่าวว่า คำพูดดังกล่าวของชัยคฺไม่จำเป็นต้องตั้งอยู่บนความเข้าใจของพวกท่าน บางทีคำว่า “ทำสงครามกับซุนนะฮฺ” ชัยคฺอาจหมายถึง บุคคลนั้น (ที่เป็นอิควาน) ทำสงครามกับชาวซุนนะฮฺหรือปฏิบัติค้านซุนนะฮฺก็เป็นได้ ชัยคฺก็เตือนให้ระวังเขาคนนั้น, ชี้แจงข้อผิดพลาดของเขา ซึ่งดังกล่าวนั้นเป็นไปตามกระบวนการทางศาสนบัญญัติที่ให้คำนึงถึงผลดีและผลเสียในเรื่องนี้
เพียงแต่การที่ชัยคฺทำอย่างนั้นมันไม่ได้บ่งว่าเขาต้องเป็น 1 ใน 72 จำพวกที่ต้องพินาศในทุก ๆ เรื่องเสียหน่อยซึ่งจากคำตอบของชัยคฺข้างต้นก็ชัดเจนอยู่แล้วผมคงไม่ต้อง
ถามอะไรอีกขออัลลอฮฺทรงประทานความจำเริญแก่ชัยคฺนะครับ
// ชัยคฺ อัลบานีย์ : ท่าน (ชัยคฺ มะอฺริบีย์) ตอบได้ดี ขออัลลอฮฺทรงประทานความจำเริญ
อธิบาย
ข้อความตรงนี้ยืนยันสิ่งที่ผมอธิบายไปตั้งแต่ต้นว่า การที่ชัยคฺอัลบานีย์พูดว่า อิควานไม่ใช่ซุนนะฮฺเพราะพวกเขาทำสงครามกับสุนนนะฮฺ ตรงนี้หมายถึงมันฮัจฺของพวกอิควานนั้นออกจากอะฮฺลุซซุนนะฮฺ แต่คนหรือสมาชิกรายตัวของอิควานนั้น ไม่เข้าเป็นหนึ่งใน 72 จำพวก ชัยคฺมะอฺริบีย์อธิบายว่า
قلتم فممكن أن يخالف أهل السنة ويحارب أهل السنة رجل
ชัยคฺอาจหมายถึง บุคคลนั้น (ที่เป็นอิควาน) ทำสงครามกับชาวซุนนะฮฺหรือปฏิบัติค้านซุนนะฮฺก็เป็นได้ ชัยคฺก็เตือนให้ระวังเขาคนนั้น,
ตรงนี้บ่งชี้เลยว่า การกระทำหรือแนวทางของคนที่เป็นอิควานนั้น “ทำสงครามกับสุนนะฮฺ” แต่ตัวคนนั้นนั้นอีกเรื่อง คำพูดของชัยคฺมะอฺริบีย์ชี้ชัดเจนว่า ชัยคฺอัลบานีย์หมายถึงว่า แนวทางคำสอนของอิควานมีที่ออกจากแนวทางซุนนะฮฺไปคือหลง แต่ก็ไม่ได้เหมารวมว่าหลงทุกเรื่อง ดังข้อความที่ว่า
لا يلزم من ذلك أن يكون من الفرق الثنتين والسبعين من الفرقة الهالكة في كل أمره
“เพียงแต่การที่ชัยคฺทำอย่างนั้นมันไม่ได้บ่งว่าเขาต้องเป็น 1 ใน 72 จำพวกที่ต้องพินาศในทุก ๆ เรื่อง (ไม่ได้หลงทุกเรื่อง) ”
คำพูดนี้บ่งชี้ในสองประเด็นว่า หนึ่ง กำลังพูดถึงรายตัว ไม่ใช่ มันฮัจฺอิควาน สอง ยอมรับว่า บุคคลนั้นมีมันฮัจฺที่หลงผิดจาก 72 จำพวกในตัวเขาแต่ไม่ใช่เหมารวมทุกเรื่อง จึงยังไม่ขับเขาออกจากแนวทางสุนนะฮฺ
ทั้งหมดนั้นคือ คำบรรยายของชัยคฺอัลบานีย์ ในเทป ซีรี่ส์ทางนำและรัศมี ลำดับที่ 849 (سلسلة الهدى والنور)
เราขอถามอิควานที่ยกฟัตวานี้มานำเสนอ ว่า
หนึ่ง ท่านกำลังเข้าใจว่า ชัยคฺอัลบานีย์รับรองมันฮัจฺของอิควานว่าไม่มี “หลงออกจากซุนนะฮฺ” เลยใช่หรือไม่ ?
สอง หรือท่านกำลังเข้าใจว่า มีสะละฟีย์คนใดหุกุ่ม “อิควานรายตัว” ว่าเป็น 1 ใน 72 จำพวก ? คำถามคือใครหุกุ่มรายตัว ? เขาหุกุ่มอิควานที่ “แนวทาง” มาตลอด แต่ท่านกลับเอาคำพูดของชัยคฺอัลบานีย์เรื่องรายตัวมานำเสนอ ท่านต้องการอะไร?
สาม หรือท่านเข้าใจว่า การที่สะละฟีย์บอกว่า อิควานไม่ใช่แนวทางซุนนะฮฺนั้น สะละฟีย์หมายถึงว่า อิควานหลงจากแนวทางซุนนะฮฺทุกเรื่อง ?!? สะละฟีย์ที่ไหนพูดว่า อิควานไม่เอาละหมาด 5 เวลา, ไม่เอาตำแหน่งเคาะลีฟะฮฺอบูบักรฺ, ไม่เชื่อมลาอิกะฮฺ, ไม่เชื่อในอะกีดะฮฺเกี่ยวกับอัลกุรอาน, บอกว่าท่านหญิงอาอิชะฮฺลงนรก ? สะละฟีย์คนไหนพูด
สะละฟีย์พูดว่า อิควานหลง หมายถึง มีคำสอน/มันฮัจฺที่หลง มีคำสอนที่ตรงกับ 1 ใน 72 จำพวก ไม่ได้หมายความว่า คำสอนของอิควาน “ทุกเรื่องหลง” การที่ชัยคฺอัลบานีย์บอกว่าไม่หลงทุกเรื่อง ขัดกับสิ่งที่สะละฟีย์ทำตรงไหนบ้าง?
สิ่งที่พิสูจน์ว่า ที่ชัยคฺอัลบานียพูดมาทั้งหมด หมายถึงรายตัวนั้น ดูได้จากประโยคต่อมาคือ
سائل آخر : في مسألة الثقة … هل السلفيون الذين تحزبوا هل خرجوا عن الفرقة الناجية قلتم نعم خرجوا عن الفرقة الناجية. الشيخ : في هذه الجزئية.
ลูกศิษย์ชัยคฺอัลบานีย์ที่แย้งชัยคฺเมื่อครู่ ก็แย้งขึ้นมาอีกครั้งว่า
..มีหลักฐานเป็นคำพูดของชัยคฺชัดเจนเลยนะครับ ตอนที่ชัยคฺถูกถามว่า “คนที่เป็นสะละฟีย์แล้วไปสังกัดพรรคหนึ่งพรรคใดนั้น พวกเขาจะหลุดจากฟิรเกาะฮฺนาญิยะฮฺหรือเปล่า ?” แล้วชัยคฺก็ตอบมาว่า “ใช่แล้วพวกเขาหลุดออกจากฟิรเกาะฮฺนาญิยะฮฺ (กลุ่มที่รอดพ้น)”
// ชัยคฺ อัลบานีย์ “หลุดออกจากแนวทางสุนนะฮฺในส่วนตรงนั้น”
เห็นกันชัด ๆ ว่าท่านพูดถึง “รายคน” คือคนที่เป็นสะละฟีย์ในรายตัวว่า สะละฟีย์ในรายตัวก็มีเรื่องหลง ออกจากซุนนะฮฺ ใครบ้างเข้าใจบ้า ๆ ไปว่า ชัยคฺอัลบานีย์หมายถึง มันฮัจสะลัฟมีหลงผิดด้วยในเรื่องสองเรื่อง!?
ก็ท่านพูดถึง สะละฟีย์รายคนว่า หลง ไม่ได้แปลว่า มันฮัจสะลัฟหลง ท่านก็พูดว่า อิควานรายตัวไม่หลง ก็ไม่ได้แปลว่า มันอิควานจะไม่หลง แยกให้ออก
เราขอถามอิควานที่ยกฟัตวานี้มานำเสนออีกครั้ง ว่า ท่านกำลังเข้าใจว่า ชัยคฺอัลบานีย์รับรองมันฮัจฺของอิควานว่าไม่มี “หลงออกจากสุนนะฮฺ” เลยใช่หรือไม่ ?
ถ้าท่านเข้าใจเช่นนี้ ผมจะให้ดูฟัตวาอีกชิ้นหนึ่งของท่าน “ที่มาหลัง” ฟัตวาตัวนี้ คือ
السائل : كذلك شيخنا في مسألة الجماعات الحزبية أيضًا هناك قد سمعت جوابكم فيها بتفصيل ووضوح وهناك من طلبة العلم من يقول نقول مثلا في جماعة الإخوان هذه الجماعة منهجها خارج عن السنة والجماعة يعني والمنهج من الفرق الهالكة أما الأفراد فكل يحكم عليه بما يستحق وسمعت من كلامكم أن منهجهم أيضًا فيه من الفرقة الهالكة وفيه من عقيدة أهل السنة والجماعة فهم في منهجهم داخلون في مناهج أهل السنة والجماعة على انحرافاتهم وأما كل فرد فكل فيحكم عليه بما يستحق هذا هو.
الشيخ : هو كذلك هو كذلك ولا شك.
“ผู้ถาม : เช่นเดียวกันนั้น ท่านชัยคฺของเราเกี่ยวกับเรื่องของกลุ่มต่าง ๆ …มีนักศึกษาพูดกันว่า เช่น พูดถึงกลุ่มอิควานว่า กลุ่มนี้มี มันฮัจ ที่หลงออกจากแนวทางของอะฮฺลุซซุนนะฮฺ หมายถึงว่า มันฮัจของกลุ่มอิควานนั้น คือหนึ่งจากมันฮัจฺของกลุ่มที่หายนะ แต่ทว่าอิควานรายตัวนั้น เราจะตัดสินพวกเขาตามที่สมควรกับสิ่งที่เขายึดถือ และผมก็ได้ยินคำพูดท่านอีกด้วยเช่นกันว่า ท่านได้ยืนยันว่ามันฮัจของกลุ่มอิควานมีมันฮัจฺของกลุ่มหลงผิดหายนะ (จาก 72 จำพวก) และก็มีที่เป็นมันฮัจฺที่ตรงกับแนวอะกีดะฮฺของแนวทางสุนนะฮฺ (นั่นหมายความว่า) พวกเขา (อิควาน) ก็มีมันฮัจฺที่ตรงกับอะฮฺลิซซุนนะฮฺควบคู่ไปกับความผิดเพี้ยน (ในมันฮัจฺ) ของพวกเขา แต่สำหรับสมาชิกรายตัวทุกคนนั้นจะถูกตัดสินตามการงานที่เขาได้ดำเนินอยู่ และมันก็เป็นไปตามนี้ (ใช่ไหม)
ชัยคฺอัลบานีย์ตอบว่า “ใช่แล้ว มันเป็นไปตามนั้นแหละ ไม่มีข้อสงสัยแต่อย่างใด” (ในเทป ซีรี่ส์ทางนำและรัศมี ลำดับที่ 851 (سلسلة الهدى والنور)
คำพูดของชัยคฺอัลบานีย์อันนี้ เป็นคำพูดที่มาจากเทปที่ 851 ซึ่งมาหลังจากเทปที่เราถกกันในตอนแรก จากเทปนี้ท่านชัยคฺอัลบานีย์ยังคงยืนยันตามที่ผู้ถามได้ย้ำเน้นว่า มันฮัจฺของกลุ่มอิควานมีที่เข้าเป็นมันฮัจฺของกลุ่มหายนะจาก 72 จำพวก เพียงแต่ชัยคฺให้ความยุติธรรมว่า แต่กระนั้นก็ยังมีมันฮัจฺของอิควานในอีกบางส่วนที่ตรงกับแนวทางสุนนะฮฺ
เราจึงอยากจะถามอิควานว่า ท่านกล้ายืนยันแบบที่ชัยคฺอัลบานีย์ยืนยันไหมว่า มันฮัจฺของอิควานมีมันฮัจของกลุ่มหลงผิดหายนะ (72 จำพวก) อยู่ ?
ส่วนคำพูดที่ว่า มีมันฮัจฺของอิควานที่ตรงกับแนวทางสุนนะฮฺนะ คำพูดนี้ไม่ต้องดีใจไปนะ เพราะสำนวนแบบนี้ไม่ใช่สำนวนรับรอง อุละมาอ์ก็เคยระบุว่า พวกมุอฺตะซิละฮฺ, ญะฮฺมียะฮฺ (ซึ่งเป็นกลุ่มหลง) ที่มีความเชื่อที่ตรงกับสุนนะฮฺในเรื่องการยอมรับอบูบักรฺเป็นเคาะลีฟะฮฺคนแรก จัดเป็นสุนนะฮฺในเรื่องนี้
ผมก็ไม่ซีเรียสนะ ใครจะบอกว่า อิควานเป็นสุนนะฮฺในเรื่องไม่ทำเมาลิด, หรือละหมาด 5 เวลา หรือยอมรับอบูบักรเป็นเคาะลีฟะฮฺ เพราะยังไงอิควานก็หลงในเรื่องมันฮัจฺอื่น ๆ อยู่แล้ว
Facebook Tags: #ต้องแยกให้ออกระหว่างแนวทางกับตัวบุคคล #กฎสำคัญที่ต้องเน้นย้ำในสังคมมุสลิมไทย