เรื่องจริงจากยุคสะลัฟกรณีมีอุละมาอ์คิดโค่นล้มผู้ปกครองมุสลิม

บทความโดย ชัยคฺ บันดัร อัล-มะหฺยานียฺ หะฟิเศาะฮุลลอฮฺ


มีคนๆ หนึ่งในยุคสะลัฟ มีความเลื่องลือในเรื่องของความรู้ และการทำอิบาดะฮฺอย่างมากมาย แต่ทว่าบุคคลนี้มีความคิดว่า สามารถอนุญาตให้ออกไปโค่นล้มบรรดาผู้นำมุสลิมได้ ชาวสะลัฟจึงตัดสินเขาผู้นี้ว่าเป็นผู้อุตริกรรม (มุบตะดิอฺ) และเตือนให้ออกห่างจากเขา และพวกเขาก็ไม่ปฎิบัติดีกับบุคคลนี้ ฉันจะขอหยิบยกเรื่องราวที่น่าประหลาดใจเช่นนี้มาให้พวกท่านได้รับรู้

เขาผู้นี้คือ หะซัน บินศอลิหฺ บินหัย อัล-ฮัมดานียฺ เสียชีวิตในปีฮิจเราะห์ที่ 169 เขาเป็นบุคคลร่วมสมัยกับบรรดาอุละมาอ์สะลัฟ ในเรื่องของความรู้ และการทำอิบาดะฮฺ เช่น อิมามซุฟยาน อัษ-เษารียฺ และบุคคลอื่นๆ

ท่านหะซัน ผู้นี้เป็นหนึ่งจากผู้รายงานหะดิษ ช่างเป็นตำแหน่งที่ยิ่งใหญ่อย่างแท้จริง แม้กระทั่งท่าน อบูฮาติม อัร-รอซียฺ ที่เป็นที่รู้จักกันอย่างดีในเรื่องความเข้มงวดในเรื่องการให้การยอมรับผู้ที่รายงานหะดิษ และการตำหนิผู้ที่รายงานหะดิษ ยังเคยกล่าวถึงเขาว่า บุคคลนี้ (หะซัน บินศอลิหฺ) ว่าเป็นคนที่มีความ ซื่อสัตย์ ความจำดี และเป็นคนที่มีความประณีตในการรายงานหะดีษ

ความน่าประหลาดใจของเขาในเรื่องความเกรงกลัว ก็คือ เขาเป็นผู้ที่อ่อนไหวง่าย อีกทั้งยังร้องให้ง่าย

ท่าน ยะหฺยา บินอบีบักรฺ กล่าวว่า ฉันเคยกล่าวกับเขาว่า “ โปรดบอกให้เราทราบถึงการอาบน้ำศพหน่อย แต่เขาไม่สามารถที่จะทำได้ เนื่องจากการร้องไห้ ”

ความน่าประหลาดใจในเรื่องราวของเขา ก็คือ เขาเป็นคนที่มีความมักน้อยและเป็นคนที่ประมาณตน ซึ่งปรากฎอยู่บนใบหน้าของเขาผู้นี้ (หะซัน บินศอลิหฺ)

ความน่าประหลาดใจในเรื่องราวของเขา ก็คือ ความโดดเด่ดของเขาในเรื่องความสมถะ และความพอเพียงของเขา แม้กระทั่งเขาเคยกล่าวแก่ตัวของเขาเองว่า “บางครั้งฉันตื่นเช้ามา โดยที่ตัวของฉันไม่มีเงินเลยแม้แต่ดิรฮัมเดียว (แม้แต่บาทเดียว) เสมือนกับว่าดุนยาได้มีชัยเหนือฉันแล้ว”

และท่านหะซัน เป็นคนที่มีความเคร่งครัด เกรงกลัวเป็นอย่างมาก จนกระทั่งว่าเมื่อเขาได้ขายทาสหญิงของเขา เขาได้กล่าวกับผู้ที่ต้องจะซื้อนางว่า “ครั้งหนึ่งนาง
ได้ไอออกมาใส่เราเป็นเลือด” โดยที่เขากล่าวเช่นนี้ ก็เพราะกลัวว่านางนั้น จะเป็นผู้ที่มีโรค และนั่นจะเท่ากับเป็นการหลอกลวงผู้ที่การจะซื้อนางไป

และเขาเป็นคนที่มีกลัวอย่างมากต่อการลงโทษของอัลลอฮ จนกระทั่งว่าเขาได้อ่านอัล-กุรอาน ถึงอายะฮฺที่ว่า

لا يحزنهم الفزع الأكبر “ความตื่นตระหนกอันยิ่งใหญ่ จะไม่ทำให้เขาโศกเศร้า…” (อัล-อันบิยาอฺ :103)

มันส่งผลอย่างมากกับเขา จนมีผู้กล่าวว่า ใบหน้าของเขาเปลี่ยนสี เป็นสีเขียว และก็เป็นสีเหลือง

และเขา (หะซัน บินศอลิหฺ) เป็นคนที่ไครครวญต่ออัล-กรุอานเป็นอย่างมาก แม้กระทั่งว่าตอนที่เขาละหมาดตอนค่ำคืน ด้วยกับการอ่านซูเราะห์ อันนะบะฮฺ “อัมมา…” เขาเป็นลมหมดสติไป จนกระทั่งถึงแสงอรุณได้ขึ้น โดยที่เขาก็อ่านไม่ได้จบซูเราะห์

และเขาเป็นคนที่ดำรงละหมาดในยามค่ำคืน เขาจะแบ่งเวลาให้อัลลอฮฺ ให้พี่ชายของเขา และให้แม่ของเขา เมื่อแม่ของเขาเสียชีวิต เขาแบ่งเวลาให้อัลลอฮฺ และพี่ชายของเขาและเมื่อพี่ชายของเขาเสียชีวิตลง เขาได้ยืนละหมาดในค่ำคืนตลอดทั้งคืน!

และเขา (หะซัน บิน ศอลิหฺ) เขาจะออกห่างจากเรื่องของดุนยา เขาจะมีความรู้สึกเสียใจต่อตัวของเขาเป็นอย่างมาก ท่านอะหฺมัด บิน ยูนุส ได้กล่าวว่า ” ฉันเคยนั่งวงสนทนากับเขา(หะซัน บิน ศอลิหฺ)เป็นเวลา 20 ปี ฉันไม่เคยเห็นเขาหันศีรษะของเขามองฟ้าเลย และเขาก็ไม่เคยพูดถึงเรื่องดุนยาเลย ! ”

และหนึ่งในบรรดาการได้รับการรับรองอันยิ่งใหญ่ที่ท่าน หะซัน บินศอลิหฺ คนนี้ได้รับก็คือ คำพูดของท่านอิมาม อบีศูรอะฮฺ อัร-รอซียฺ ที่ได้กล่าวเกี่ยวกับเขาว่า “ ได้รวมอยู่ในตัวของเขาซึ่งความประณีต ความเข้าใจ การทำอิบาดะฮฺ และเป็นคนมักน้อย”

ถึงแม้ว่าเขาจะมีคุณสมบัติดั่ง ที่กล่าวไปแล้วทั้งหมด ในเรื่องความรู้ และความมักน้อย (ไม่โลภมาก) แต่กระนั้นก็ตาม บรรดาอุละมาอฺในยุคสะลัฟ ต่างต่อต้านและคัดค้านเขา และตัดสินว่าเขานั้นเป็นพวกอุตริกรรม (มุบตะดิอฺ) และสั่งให้ออกห่างจากเขา และส่วนหนึ่งจากสะลัฟ ก็ไม่รับรายงานหะดีษ ที่รายงานมาจากเขา

จนกระทั่งอุละมาอ์ในยุคสะลัฟ ได้ตอบโต้เขาอย่างรุนแรงและพูดถึงเขา (หะซัน บิน ศอลิหฺ) อย่างไม่ขาดสายเลยทีเดียว ท่านอะหฺมัด บินยูนุส ได้กล่าวถึงเขาไว้ว่า “หากว่า หะซัน บินศอลิหฺ จะไม่เกิดมาก็คงจะดีกว่า ”

แล้วอะไรล่ะ คือบาปที่เขา (หะซัน บิน ศอลิหฺ) ได้ทำกระทำ จนทำให้บรรดาอุละมาอฺสะลัฟ ปฎิบัติกับเขาเช่นนี้ จนถึงขั้นที่บรรดาอุละมาอฺต่างไม่ให้ความสนใจกับความดีต่างๆของเขา และข้อดีต่างๆ ของเขา อีกทั้งยังไม่แสดงความอ่อนโยนต่อเขา

ความผิดของเขาคือ การที่เขาอนุญาตให้โค่นล้มผู้นำมุสลิมที่อธรรมได้!

และเขาเพียงแค่คิดว่าสามารถทำเช่นนั้นได้! ทั้งๆ ที่เขาก็ยังไม่ได้ออกไปโค่นล้มผู้นำ! เขาไม่ได้เสอนแนวคิดนี้ของเขาออกไป! และเขาก็ยังไม่ได้ไปปลุกปั่นผู้คนให้ออกไปโค่นล้มผู้นำ! แต่ทว่าเขาเพียงแค่มีความคิดว่าทำได้ แค่นั้นเอง!

ท่านอิมาม ซะหะบียฺ ได้กล่าวว่า “เขามีความคิดในการโค่มล้มผู้นำในยุคของเขา อันเนื่องมาจากความอธรรม และความชั่วของผู้ปกครองเหล่านั้น โดยที่เขายังไม่ได้กระทำการสู้รบเลย ”

และท่าน ซะหะบียฺ ก็กล่าวว่า ” เขาจะได้เป็นหนึ่งในบรรดาอิม่ามแห่งอิสลาม ถ้าหากเขาไม่พัวพันกับบิดอะฮฺ (การโค่นล้มผู้นำมุสลิม) ”

และบรรดาอุลามาอฺสะลัฟ ต่างก็ไม่หลงไปกับภาพลักษณ์ บุคลิก การถ่อมตัว และการนอบน้อมของเขา ! ท่าน อบู ซะอีด อัล-อัชญียฺ ได้กล่าวว่า “ ฉันเคยได้ยินท่าน อิบนุ อิดรีส กล่าวว่า: การยิ้มของท่าน ซุฟยาน อัษเษารียฺ ยังเป็นที่รักของพวกเรามากกว่า ความน่าทึ่งของ หะซัน บิน ศอลิหฺ เสียอีก !

ประโยชน์ที่จะได้จากเรื่องเล่าเบื้องต้น

แท้จริง ทัศนะที่บอกให้ออกไปโค่นล้มผู้นำที่อธรรมได้นั้น เป็นบิดอะฮฺ (อุตริกรรมในศาสนา) และผู้ที่มีทัศนะเช่นนี้ก็จะไม่ได้รับการเกรงใจ และจะไม่มีการนิ่งเงียบ(หมายถึง ไม่ตอบโต้)ต่อใครก็ตามที่มีทัศนะเช่นนี้ โดยไม่พิจารณาว่าเขาคนนั้นจะเป็นผู้ที่มีความรู้ และมีเกียรติเพียงใดก็ตาม

เพราะแท้จริง ชาวสะลัฟจะตัดสินคนๆหนึ่งด้วยการปฎิบัตตามแนวทางซุนนะฮฺ โดยจะไม่ตัดสินกันที่ การมีความรู้มาก รู้อย่างกว้างขวาง และจะไม่ตัดสินกันที่ความยาวนานของการทำอิบาดะฮฺ และจะไม่ตัดสินที่การมีความคุซูอฺ(ถ่อมตน นอบน้อม)มาก และการร้องไห้เป็นอย่างมาก

แท้จริงแล้วชายคนหนึ่ง เขาอาจจะได้เป็นอุลามาอฺ(ปราชญ์แห่งอิสลาม) แต่ทว่าเขามีสิ่งที่เป็นบิดอะฮฺ เพียงแค่บิดอะฮฺเดียวเท่านั้น (โดยบิดอะฮฺนั้นไปขัดกับอูศูล เพียงข้อหนึ่งเท่านั้น จากบรรดาอุศูล(สิ่งที่ถือเป็นรากฐานของอิสลาม)ทั้งหลาย ของอะลิซซุนนะฮฺ) ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้เขาผู้นั้นสิ้นสภาพจากการเป็นอะฮฺลิซซุนนะฮฺ วัล ญะมาอะฮฺ และกลายเป็นพวกบิดอะฮฺ (มุบตะดิอฺ) ด้วยสาเหตุดังกล่าวนั้น

———————————–
หมายเหตุ: อ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประวัติ ของ หะซัน บิน ศอลิหฺ บิน หัย อัล-ฮัมดานียฺ ได้ในกีตาบ سير أعلام النبلاء เล่มที่ 7 หน้าที่ 360 -370 ของอิม่าม อัซ-ซะหะบียฺ
———————————–
แปลโดย สาธิต(ยูนุส) แสงไพจิตร
ตรวจทานและแก้ไขโดย ชารีฟ วงศ์เสงี่ยม