อัลกุรอานกับทฤษฎีบิกแบง (9) : ชี้แจงประเด็นนักวิทยาศาสตร์ประกาศยกเลิกหลักฐานที่สนับสนุนทฤษฎีบิกแบง

เมื่อครูกลอนออกมานำเสนอประเด็น “นักวิทยาศาสตร์ประกาศยกเลิกหลักฐานที่สนับสนุนทฤษฎีบิกแบง” โดยแปลข้อความบางตอนจาก

http://m.youm7.com/story/2015/2/2/العلماء-يتراجعون-عن-أدلة-قيل-إنها-تثبت-الانفجار-الكونى-العظيم/2050662

ดังนี้ : แต่ในการวิจัยใหม่ที่จะนำออกเผยแพร่ (ในไม่ช้า) นายไบรต์ฯ จากมหาวิทยาลัยคาลิฟอเนีย และเป็นสมาชิกทีมวิจัย Bicep 2 กล่าวว่า “เราขอถอนอย่างชัดเจนถึงสมติฐานดังกล่าว(ที่เกี่ยวกับหลักฐานสนับสนุนทฤษฎีบิกแบง)” เขายังเสริมว่า “มันเป็นเรื่องทำให้ผิดหวังอย่างยิ่ง หลังจากที่องค์การอวกาศยุโรปประกาศผล(วิจัย)ไปแล้ว ซึ่งมันเหมือนการค้นพบว่าสานต้าคร็อสไม่มีอยู่จริง แต่การต้องยอมรับความจริงมันเป็นเรื่องสำคัญมาก”

วิพากษ์

ขอเท้าความถึงข่าวเมื่อมีนาคม ปี 2014 ก่อนคือมีการประกาศการค้นพบคลื่นความโน้มถ่วงช่วงกำเนิดจักรวาลหลังเกิดบิกแบงเป็นครั้งแรกจากการสำรวจด้วยกล้องโทรทรรศน์วิทยุ BICEP2 (Background Imaging of Cosmic Extragalactic Polarization 2) ที่ตั้งอยู่ที่ขั้วโลกใต้

คลื่นความโน้มถ่วงช่วงกำเนิดจักรวาลสามารถตรวจพบได้ด้วยการเปลี่ยนรูปแบบคลื่นแสงจากบิกแบงให้มีระนาบการสั่นระนาบเดียวหรือที่เรียกว่าโพลาไรเซชัน (Polarisation) คลื่นแสงจากบิกแบงต่อมากลายเป็นคลื่นไมโครเวฟหลังจากเดินทางข้ามผ่านอวกาศ รู้จักกันในชื่อเรียกว่ารังสีไมโครเวฟพื้นหลังของจักรวาล (Cosmic Microwave Background Radiation : CMB)

ซึ่ง BICEP2 มีหน้าที่ตรวจวัดการสั่นระนาบเดียวของคลื่นดังกล่าวนี้ซึ่งเป็นการพิสูจน์เรื่องการขยายตัวของจักรวาลช่วงเริ่มต้น[1]

ต่อมาปี 2015 จากข้อมูลของดาวเทียม Planck ขององค์การอวกาศยุโรป (European Space Agency : ESA) ได้เปิดเผยว่าสัญญาณนี้น่าจะมาจากฝุ่นในทางช้างเผือกมากกว่าที่จะมีแหล่งกำเนิดจากจักรวาลช่วงเริ่มต้น

โดยฝุ่นในทางช้างเผือกปล่อยแสงโพลาไรซ์ได้เช่นเดียวกันซึ่งสามารถมีรูปแบบเป็นระลอกเหมือนกัน George Efstathiou ผู้วิจัย Plank กล่าวว่าข้อสรุปนี้ไม่ได้น่าแปลกใจ “ผมไม่รู้ว่าทำไมผู้คนถึงตื่นเต้นกันมาก ไม่มีอะไรที่ดราม่าเลยที่นี่จากมุมมองของนักวิทยาศาสตร์”[2]

Brian Keating นักฟิสิกส์จากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ซานดิเอโก (UCSD) ผู้มีบทบาทสำคัญในการสร้าง BICEP2 และวิเคราะห์ข้อมูลของมันกล่าวว่า

“ความผิดพลาดนี้เป็นหนึ่งในเรื่องการแปลผล กล้องโทรทรรศน์ได้จับสัญญาณที่ชัดเจน มันอาจจะเป็นฝุ่นจากทางช้างเผือกหรือจากคลื่นแรงโน้มถ่วงที่แอบแฝงอยู่ใต้สัญญาณจากฝุ่น แต่เราได้พิจารณาแล้วว่าสัญญาณนั้นไม่ได้มาจากตอนที่เราเชื่อว่าจักรวาลได้เริ่มขยายตัวโดยสิ้นเชิง”[3]

จากสิ่งที่ Brian กล่าวไม่ได้เป็นการประกาศยกเลิกหลักฐานที่สนับสนุนทฤษฎีบิกแบงดังที่บางคนพยายามนำเสนอแต่อย่างใด เขาเพียงแต่ถอนการอ้างที่เคยประกาศไปว่าค้นพบคลื่นความโน้มถ่วงแล้วซึ่งนั่นก็ไม่ได้หมายความว่าไม่มีคลื่นความโน้มถ่วงอยู่จริงหรือไม่มีหนทางที่จะตรวจวัดได้

ต่อให้เขาประกาศยกเลิกหลักฐานที่สนับสนุนบิกแบง “ข้อนี้” ไปก็ไม่ได้ทำให้ทฤษฎีบิกแบงล่มสลายลงเพราะหลักฐานที่สามารถสังเกตได้โดยตรงที่สุดและเป็นหลักฐานขั้นแรกสุดของทฤษฎีนี้หรือที่เรียกว่า “สี่เสาหลัก” ของทฤษฎีบิกแบงคือการขยายตัวของจักรวาลตามกฎของฮับเบิล, การค้นพบและการตรวจวัดคลื่นไมโครเวฟพื้นหลัง, บิกแบงนิวคลีโอซินทีสิสของธาตุแสง และการสังเกตการก่อรูปของกาแล๊กซี่และโครงสร้างขนาดใหญ่[4]

Marc Kamionkowski นักจักรวาลวิทยากล่าวว่า

“มีเส้นทางที่ชัดเจนข้างหน้า ถ้าเราทำการวัดแบบนี้มากกว่านี้ในหลาย ๆ ความถี่เราจะสามารถแยกสัญญาณจากฝุ่นออกจากสัญญาณคลื่นความโน้มถ่วงช่วงกำเนิดจักรวาลได้อย่างแม่นยำ” [5]

และกุมภาพันธ์ ปี 2016 ก็มีข่าวให้ฮือฮาอีกครั้งหลังจากนายเดวิด ไรต์ซ ผู้อำนวยการบริหารโครงการ LIGO หรือ Laser Interferometer Gravitational-Wave Observatory ได้ออกมายืนยันว่าค้นพบคลื่นความโน้มถ่วง จากการตรวจสอบพบว่าคลื่นที่พบนี้มีเกิดจากหลุมดำ 2 หลุม[3] และจากการค้นพบคลื่นนี้ทำให้นักวิทยาศาสตร์ 3 คนได้รับรางวัลโนเบลปี 2017 ถึง 3 คน[6]

คำถามที่ผู้อ่านควรจะต้องตั้งคำถามก็คือ ทำไมคนที่นำเสนอประเด็นการยกเลิกหลักฐานที่สนับสนุนทฤษฎีบิกแบงถึงได้ “เลือกข่าวการถอนการค้นพบคลื่นความโน้มถ่วงเมื่อปี 2015 เพียงอย่างเดียว แต่ไม่พูดถึงข่าวการค้นพบคลื่นความโน้มถ่วงใหม่ครั้งล่าสุดคือปี 2016” เลย ?!

ซึ่งอาจมองได้ว่า ท่านครูอาจมุ่งแต่จะเล่นเล่นงานคนอื่น โดยรีบเร่งที่จะนำเสนอจนขาดความรอบคอบ เช่นนี้ ทั้งที่ข้อมูลเหล่านี้ก็ไม่ได้สืบค้นยากแต่ประการใด มิหนำซ้ำยังไม่รู้ว่าประเด็นที่ข่าวพูดถึงนั้นก็ไม่ใช่การยกเลิกหลักฐานสนับสนุนทฤษฎีบิ้กแบง (บางคนถึงขนาดเข้าใจว่าเป็นการยกเลิกทฤษฎีบิ้กแบงเลย ซึ่งตลกมากๆ) แต่เป็นแค่การถอนคำอ้างเรื่องการค้นพบคลื่นความโน้มถ่วงเท่านั้น!!

นี่บ่งชี้ถึงความไร้เดียงทางวิชาการอย่างมากอย่างมาก แต่ท่านครูก็ยังกล้าหาญที่พูดเรื่องบิ้กแบงต่อไป โดยไม่แคร์สายตาประชาชี

[1] https://prachatai.com/journal/2014/03/52373#1
[2] http://www.nature.com/news/gravitational-waves-discovery-now-officially-dead-1.16830?error=cookies_not_supported&code=f8170158-339e-4d2c-96db-900cf190dd6d
[3] http://www.sandiegouniontribune.com/news/science/sdut-universe-mistake-UCSD-2015jan30-story.html
[4] http://www.damtp.cam.ac.uk/research/gr/public/bb_pillars.html
[5] https://www.thairath.co.th/content/576301
[6] https://www.theguardian.com/science/2017/oct/03/nobel-prize-physics-discovery-gravitational-waves-ligo