4 กฎเหล็กในประเด็นเรื่องเตาฮีดและชิรก์ ตอนที่ 3: คำอธิบายอัลหะนีฟียะฮ์

ตัวบท

[อ่านตอนที่แล้ว] ท่านชัยค์ เราะฮิมะฮุลลอฮ์ตะอาลา ได้กล่าวว่า: พึงทราบไว้เถิด ขออัลลอฮ์ทรงชี้นำท่านสู่การภักดีเชื่อฟังพระองค์ แท้จริงอัลหะนีฟียะฮ์นั้นคือ ศาสนาของอิบรอฮีม คือการอิบาดะฮ์ต่ออัลลอฮ์โดยเป็นผู้บริสุทธิ์ใจต่อพระองค์ในศาสนา ดังเช่นที่อัลลอฮ์ ตะอาลา กล่าวว่า

وَمَا خَلَقْتُ الْجِنَّ وَالْإِنسَ إِلَّا لِيَعْبُدُونِ

ความว่า: “และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่ออิบาดะฮ์ต่อข้า” [ซูเราะฮ์ อัซซาริยาต (51) : 56]

คำอธิบาย

พึงทราบไว้เถิด ขออัลลอฮ์ทรงชี้นำท่าน” นี่คือดุอาอ์จากชัยค์ เราะฮิมะฮุลลอฮ์ และเช่นเดียวกัน ก็เป็นการสมควรสำหรับผู้ที่ทำการสอนที่จะทำการขอดุอาอ์ให้แก่ผู้ที่ทำการเรียนรู้

สู่การภักดีเชื่อฟังพระองค์” ความหมายของมันก็คือ การปฏิบัติตามคำสั่งใช้ต่างๆ ของพระองค์ และการหลีกห่างจากคำสั่งห้ามต่างๆ ของพระองค์

แท้จริงอัลหะนีฟียะฮ์นั้น คือศาสนาของอิบรอฮีม” อัลลอฮ์ ผู้ทรงสูงส่ง ได้ทรงสั่งใช้นบีของเราให้ปฏิบัติตามศาสนาของอิบรอฮีม อัลลอฮ์ ตะอาลา ได้กล่าวว่า

ثُمَّ أَوْحَيْنَا إِلَيْكَ أَنِ اتَّبِعْ مِلَّةَ إِبْرَاهِيمَ حَنِيفًا ۖ وَمَا كَانَ مِنَ الْمُشْرِكِينَ

ความว่า: “แล้วเราได้วะฮีแก่เจ้าว่า จงปฏิบัติตามศาสนาของอิบรอฮีมผู้เป็นหะนีฟ และเขามิได้อยู่ในหมู่ผู้ตั้งภาคี” [ซูเราะฮ์ อันนะฮฺล์ (16): 123]

อัลหะนีฟียะฮ์ คือศาสนาของอัลหะนีฟ ซึ่งก็คืออิบรอฮีม อะลัยฮิศเศาะลาตุวัสลาม และอัลหะนีฟนั้น หมายถึงผู้ที่ผินเข้าสู่อัลลอฮ์และผินออกห่างจากสิ่งอื่นนอกเหนือจากพระองค์ นี่คืออัลหะนีฟ ผู้ที่ผินเข้าสู่อัลลอฮ์ด้วยหัวใจของเขา ด้วยการกระทำต่างๆ ของเขา ด้วยเจตนาของเขา ซึ่งเป้าหมายของเขาทั้งหมดเพื่ออัลลอฮ์ และผินออกห่างจากสิ่งอื่นนอกจากพระองค์ ซึ่งอัลลอฮ์ได้ทรงสั่งใช้เราให้ปฏิบัติตามศาสนาของอิบรอฮีม

وَمَا جَعَلَ عَلَيْكُمْ فِي الدِّينِ مِنْ حَرَجٍ ۚ مِّلَّةَ أَبِيكُمْ إِبْرَاهِيمَ

ความว่า: “…และพระองค์มิได้ทรงทำให้เป็นการลำบากแก่พวกเจ้าในเรื่องของศาสนา ศาสนา (ที่ไม่ลำบาก) คือศาสนาของอิบรอฮีม…” [ซูเราะฮ์ อัลฮัจญ์ (22): 78]

และ ศาสนาของอิบรอฮีม คือ “คือการอิบาดะฮ์ต่ออัลลอฮ์โดยเป็นผู้บริสุทธิ์ใจต่อพระองค์ในศาสนา” นี่คืออัลหะนีฟียะฮ์ ซึ่งท่านไม่ได้กล่าวว่า “คือการอิบาดะฮ์ต่ออัลลอฮ์” แต่เพียงแค่นี้ แต่ท่านกล่าวต่ออีกว่า “โดยเป็นผู้บริสุทธิ์ใจต่อพระองค์ในศาสนา” หมายถึง ท่านต้องหลีกห่างออกจากชิรก์ เพราะว่าอิบาดะฮ์นั้น เมื่อมีชิรก์มาคลุกเคล้าเข้ากับมัน อิบาดะฮ์นั้นจะก็ไร้ผล และมันก็จะไม่เป็นอิบาดะฮ์ได้ นอกจากมันจะต้องปลอดภัยจากชิรก์ใหญ่ และจากชิรก์เล็กเท่านั้น

ดังเช่นที่อัลลอฮ์ ตะอาลา กล่าวว่า

وَمَا أُمِرُوا إِلَّا لِيَعْبُدُوا اللَّـهَ مُخْلِصِينَ لَهُ الدِّينَ حُنَفَاءَ

ความว่า: “และพวกเขามิได้ถูกบัญชาให้กระทำอื่นใดนอกจากเพื่อเคารพภักดีต่ออัลลอฮ์ โดยอยู่ในสภาพผู้มีเจตนาบริสุทธิ์ในการภักดีต่อพระองค์ และในสภาพผู้อยู่ในแนวทางที่เที่ยงตรง…” [ซูเราะฮ์ อัลบัยยินะฮ์ (98): 5]

โดยสรุปแล้วนั้น หะนีฟ ก็คือผู้ที่บริสุทธิ์ใจต่ออัลลอฮ์ ผู้เกรียงไกร ผู้ทรงยิ่งใหญ่

และการอิบาดะฮ์นี้ อัลลอฮ์ทรงสั่งใช้สรรพสิ่งทั้งหมดให้ปฏิบัติ ดังที่อัลลอฮ์ ตะอาลา ได้กล่าวว่า

وَمَا خَلَقْتُ الْجِنَّ وَالْإِنسَ إِلَّا لِيَعْبُدُونِ

ความว่า: “และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่ออิบาดะฮ์ต่อข้า” [ซูเราะฮ์ อัซซาริยาต (51): 56]

และความหมายของ “พวกเขาอิบาดะฮ์” หมายถึง “พวกเขาอิบาดะฮ์ข้าเพียงหนึ่งเดียว” ซึ่งฮิกมะฮ์ของการสร้างสรรพสิ่งนั้น คือการที่พวกเขาอิบาดะฮ์ต่ออัลลอฮ์ ผู้ทรงมีเกียรติ ผู้ทรงสูงส่ง โดยที่พวกเขาเป็นผู้บริสุทธิ์ต่อพระองค์ในศาสนา ส่วนหนึ่งของพวกเขาก็อาจจะปฏิบัติตาม อีกส่วนหนึ่งก็อาจจะไม่ปฏิบัติตาม แต่ทว่าฮิกมะฮ์ในการสร้างพวกเขาก็คือสิ่งนี้ สำหรับผู้ที่อิบาดะฮ์สิ่งอื่นนอกเหนือจากอัลลอฮ์นั้น เขาคือผู้ที่ขัดกับฮิกมะฮ์ในการสร้างสรรพสิ่ง ขัดกับคำสั่งใช้ และขัดกับบทบัญญัติ

และอิบรอฮีมนั้น คือพ่อของบรรดานบีทั้งหลายที่มาหลังจากท่าน ซึ่งทุก ๆ คนนั้นมาจากลูกหลานของท่าน และด้วยเหตุนั้นอัลลอฮ์ ผู้ทรงสูงส่ง ได้กล่าวว่า

وَجَعَلْنَا فِي ذُرِّيَّتِهِ النُّبُوَّةَ وَالْكِتَابَ

ความว่า: “และเราได้ให้การเป็นนบี และคัมภีร์แก่ลูกหลานของเขา” [ซูเราะฮ์ อัลอังกาบูต (29): 27]

และทุกคนนั้นมาจากบนูอิสรออีล (ลูกหลานของอิสรออีล) ผู้เป็นหลานของอิบรอฮีม อะลัยฮิสลาม นอกจากมุฮัมมัด (ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม) เพราะเขามาจากลูกหลานของอิสมาอีล ซึ่งนบีทุกคน เป็นลูกหลานของอิบรอฮีม อะลัยฮิศเศาะลาตุวัสลาม ซึ่งถือเป็นการให้เกียรติแก่ท่าน และอัลลอฮ์ได้ทรงให้ท่านเป็น อิมาม (ผู้นำ) แก่มวลมนุษย์ ซึ่งหมายถึง เป็นตัวอย่าง

قَالَ إِنِّي جَاعِلُكَ لِلنَّاسِ إِمَامًا

ความว่า: “…พระองค์ตรัสว่า แท้จริงข้าจะให้เจ้าเป็น อิมาม (ผู้นำ) แก่มวลมนุษย์…” [ซูเราะฮ์ อัลบากอเราะฮ์ (2): 124]

หมายถึง เป็นตัวอย่าง

إِنَّ إِبْرَاهِيمَ كَانَ أُمَّةً

ความว่า: “แท้จริง อิบรอฮีมนั้นเป็นอุมมะฮ์…” [ซูเราะฮ์ อันนะฮฺล์ (16): 120]

หมายถึง เป็นอิมาม (ผู้นำ) ที่จะถูกปฏิบัติตาม

และด้วยการดังกล่าวนั้นแหละ ที่อัลลอฮ์ได้ทรงสั่งใช้สรรพสิ่งทั้งหมด ดังที่พระองค์ ผู้ทรงสูงส่ง กล่าวว่า

وَمَا خَلَقْتُ الْجِنَّ وَالْإِنسَ إِلَّا لِيَعْبُدُونِ

ความว่า: “และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่ออิบาดะฮ์ต่อข้า” [ซูเราะฮ์ อัซซาริยาต (51): 56]

โดยอิบรอฮีมนั้น ได้เรียกร้องมวลมนุษย์สู่การอิบาดะฮ์ต่ออัลลอฮ์ ผู้เกรียงไกร ผู้ทรงยิ่งใหญ่ ดังเช่นนบีท่านอื่น ๆ นบีทุกท่านนั้นเรียกร้องสู่การอิบาดะฮ์ต่ออัลลอฮ์ และละทิ้งการอิบาดะฮ์ต่อสิ่งอื่นนอกจากพระองค์ ดังเช่นที่พระองค์ ผู้ทรงสูงส่ง ได้กล่าวว่า

وَلَقَدْ بَعَثْنَا فِي كُلِّ أُمَّةٍ رَّسُولًا أَنِ اعْبُدُوا اللَّـهَ وَاجْتَنِبُوا الطَّاغُوتَ

ความว่า: “และแน่นอน เราได้ส่งเราะซูลมาในทุกประชาชาติ (โดยบัญชาว่า) พวกท่านจงเคารพภักดีอัลลอฮ์ และจงหลีกหนีให้ห่างจากพวกเจว็ด…” [ซูเราะฮ์ อันนะฮฺล์ (16): 36]

ส่วนบทบัญญัติต่างๆ ที่เป็นคำสั่งใช้ คำสั่งห้าม ฮะลาล ฮะรอม สิ่งเหล่านี้จะแตกต่างกันสำหรับแต่ละประชาชาติขึ้นอยู่กับความจำเป็นต่างๆ อัลลอฮ์ทรงวางบทบัญญัติ แล้วก็ทรงยกเลิกมันด้วยกับบทบัญญัติอื่น จนกระทั่งชะรีอะฮ์อิสลามได้มาถึง บทบัญญัติอื่นๆ ทั้งหมดก็ถูกยกเลิกไป และชะรีอะฮ์อิสลามนั้นจะอยู่จนกระทั่งวันกิยามะฮ์ ส่วนสิ่งที่เป็นรากฐานศาสนาของบรรดานบีต่างๆ นั่นก็คือ เตาฮีด สิ่งนี้ไม่เคยถูกยกเลิก และจะไม่มีทางถูกยกเลิก

ศาสนาของบรรดานบีทั้งหมดนั้นคือศาสนาเดียวกัน นั่นก็คือศาสนาอิสลาม ซึ่งหมายถึง การมีความอิคลาส (ความบริสุทธิ์ใจ) ด้วยการมีเตาฮีดเพื่ออัลลอฮ์ ส่วนบทบัญญัติต่างๆ นั้น จะแตกต่างกัน จะถูกยกเลิก แต่ว่าเตาฮีด และอะกีดะฮ์นั้น ตั้งแต่อาดัม จนถึงนบีท่านสุดท้าย พวกเขาทั้งหมดเรียกร้องสู่เตาฮีด และเรียกร้องสู่การอิบาดะฮ์อัลลอฮ์ และการอิบาดะฮ์อัลลอฮ์นั้น มีความหมายว่า การเชื่อฟังพระองค์ทุกๆ เวลา ในสิ่งอันเป็นบทบัญญัติต่างๆ ที่พระองค์สั่งใช้ หากบทบัญญัตินั้นถูกยกเลิก การปฏิบัติตามบทบัญญติที่เข้ามายกเลิกก็จะจะกลายเป็นอิบาดะฮ์แทน ส่วนการปฏิบัติตามสิ่งที่ถูกยกเลิกไปแล้ว ก็จะไม่ใช่การอิบาดะฮ์เพื่ออัลลอฮ์

(อ่านตอนที่ 4 คลิก)